ส้มตำนัว ตำมั่วตำป่ารสแซ่บ@เอื้ออาทรบึงกุ่ม

Trip นี้ไม่พาไปเที่ยวค่ะ แต่จะพาไปทานอาหาร อาหารยอดนิยมของทุกคน โดยเฉพาะคุณผู้หญิง นั่นก็คือ ส้มตำ ค่ะ ส้มตำนอกจากจะเป็นอาหารที่สามารถทานได้ทุกวันแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเมนูสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักด้วย ส้มตำ มีหลายประเภท ทั้งตำไทย ตำปู ตำปลา ตำไทยใส่ปู ตำปูปลาร้า และอื่นๆอีกมากมาย แล้วแต่คุณจะเลือกทาน และหลายๆคนก็คงจะมีร้านโปรดที่ทานกันเป็นประจำอยู่แล้ว

แต่วันนี้เราจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อย ไปทาน ส้มตำ เหมือนกันแต่ไม่ใช่ ส้มตำธรรมดา หลายๆคนอาจจะเคยได้ทานส้มตำสูตรที่มีขายอยู่ทั่วไป ลองเปลี่ยนมาทาน ตำป่า กันบ้าง ส้มตำป่า จะคล้ายกับ ส้มตำนัว ค่ะ เพียงแต่ว่าเครื่องที่ใส่ในส้มตำจะเยอะแยะมากมายแล้วแต่สูตรของแต่ละร้านค่ะ ไม่เหมือนกัน พื้นฐานอาจจะเหมือนๆกัน แต่มีเครื่องเพิ่มเติมมาให้ ส้มตำป่า รสแซ่บและนัวยิ่งๆขึ้นค่ะ

ส่วนบรรยากาศของร้านก็บ้านๆค่ะก็เพราะกับคนธรรมดาเดินดินทั่วไป ไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่าอะไร คนที่ไม่ค่อยยึดติดกับบรรยากาศที่ต้องหรูเริ่ดก็สามารถไปนั่งทานที่ร้านนี้ได้ค่ะ แต่ใครที่ออกจะติดกับความสบาย แอร์ฉ่ำๆ บรรยากาศดีๆ ก็เลิกค่ะ ไม่ต้องคิดจะไปที่ร้านนี้เลย เพราะที่ตั้งของร้านอยู่ในเต้นท์ขายอาหารในโครงการบ้านเอื้ออาทร บึงกุ่ม ซอยเสรีไทย 43

........เริ่มกันเลยดีกว่าเน๊าะ........วันนี้จะพาไปทาน 2 ร้าน

เริ่มต้นที่ร้านแรกเลยค่ะ (ดูจากจำนวนลูกค้าท่าจะขายดีเลยนำมาอันดับ1)

ร้านส้มตำคำหล้า เอื้ออาทรบึงกุ่ม ซ.เสรีไทย 43

เบอร์โทร. 086-0126446

(สามารถโทรสั่งได้ แต่ถ้าช่วงใกล้เที่ยง จะไม่รับทางโทรศัพท์เพราะมีลูกค้ามารอคิว ต้องเดินมาสั่งเองและนัดเวลามารับด้วย)

เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 08.00 เป็นต้นไป จนกว่าเครื่องจะหมด เท่าที่ทราบประมาณบ่ายสามของทุกวันร้านนี้ก็ปิดร้านแล้ว วันหยุดอาจจะขยายเวลาหน่อย แต่ขึ้นอยู่กับเครื่องที่เตรียมไว้แต่ละวัน

คำหล้า ส้มตำโคราช เป็นเต้นท์อยู่ติดกับ 7-eleven

เมนูแนะนำวันนี้ ต้มแซ่บเนื้อ (สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อก็อด)



แม่ค้า พี่คำหล้า ค่ะ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส่เป็นนิด
อันเนื่องมาจากคนรอคิวเยอะ บางครั้งมีผิดคิวกัน ถึงขั้นโวยวาย แต่พี่เจ้าของร้านเขาก็เคลียร์ได้เสมอค่ะ เพราะหน้าตาแบบนี้เอง



นอกจากส้มตำร้านนี้ยังมีสารพัดตำ เช่นตำกล้วย ตำมะขามอ่อน ตำมะยม เป็นต้น ตำเหล่านี้ถ้าไม่ใช่คนอิสานแท้ๆเห็นจะไม่กล้าลอง

แต่ถ้าได้ลองแล้วก็จะติดใจเช่นเดียวกัน (ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ค่ะ)

เครื่องที่จะใส่ในส้มตำ ขึ้นอยู่กับว่าท่านจะสั่งตำอะไร พี่คำหล้าสามารถค่ะ มีส้มตำหอยดองด้วย

ภาชนะก็สะอาดสะอ้านดีค่ะ ถึงจะเป็นร้านเล็กๆก็ตาม

ที่เห็นลูกค้ากำลังจด Order ค่ะ คิวยาวมาเป็นห่างว่าว ไม่ได้ถ่ายลูกค้าท่านอื่นๆที่กระจายกันนั่งคอยส้มตำที่ตัวเองสั่งไว้

เราเองเดินมาสั่งตั้งแต่ 8-9โมง ได้ทานอีกทีประมาณเกือบบ่ายๆ โมงเลยทีเดียว

ไก่ย่างก็มี สำหรับตัวเองไม่ค่อยน่าทานเท่าไหร่ แล้วก็มีน้อยด้วย ประมาณบ่ายสองไก่ก็อันตรธานหายไปหมดแล้ว

แต่ก็มีร้านแนะนำค่ะ ในบึงกุ่มยังมีร้านไก่ย่างวิเชียรด้วย ชอบทานไก่ร้านนี้มากกว่า

แต่วันนี้ไม่มีรูปภาพมาให้ดู เพราะวันที่ไปทานฝนตกก็เลยรีบหิ้วส้มตำกลับไปทานที่บ้านไม่แวะที่ไหนอีก

นี่ก็ใกล้จะหมดแล้ว

ต้มแซ่บเนื้อ ร้านนี้มักน้อยมากๆค่ะ ทำแต่พอเพียงจริงๆ

ส้มตำป่า รูปร่างหน้าตา ส้มตำป่า ร้านคำหล้าค่ะ ประกอบด้วยเครื่องส้มตำทั่วๆไป แต่เพิ่มผักกาดดอง ผักกระเฉด หน่อไม้ ปลาตัวเล็กทอด กุ้งแห้ง ประมาณนี้

รสชาดก็ไม่ต้องพูดถึง อันดับหนึ่งในใจต้องร้านนี้ค่ะ ต้นฉบับส้มตำอิสานตัวจริงเสียงจริง ไม่ปรุงแต่งจนรสชาดดั้งเดิมหายไป

แต่เจ้ราของร้านก็ตามใจลูกค้าเหมือนกัน โดยจะสอบถามเสมอว่า ใส่น้ำตาลไหม(คนอิสานไม่ค่อยทานน้ำตาลค่ะ)

เผ็ดไหม รสชาดยังไง ไม่ใส่อะไรบ้าง

(ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ กล้องจากมือถือ ซื้อกล้อง Digital แต่ก็ไม่ค่อยได้ดั่งใจ เดี๋ยวชัดเดี๋ยวไม่ชัด)

ส้มตำไทยใส่ปู มีเพื่อนหนึ่งคนไม่ทานส้มตำปลาร้า เลยสั่งส้มตำไทยมาทานคนเดียว

และขอบอกว่าตำไทยร้านนี้อร่อยมากๆ ขนาดเราไม่ค่อยทานตำไทยเท่าไหร่ พอได้ลองทานชักติดใจ

กุ้งแห้งที่ใส่ตัวใหญ่มาก(กว่าปกติของร้านที่เคยทาน) ถั่วลิสงคั่วก็เม็ดใหญ่ค่ะ เลยนั่งตักถั่วทานซะงั้น รสชาดก็แซ่บได้ใจ

หน้าตาไก่ย่างร้านคำหล้าค่ะ

ร้านต่อมาอยู่คนละฝั่งกับร้านคำหล้า แต่เต้นท์เดียวกันค่ะ ประมาณว่าแบ่งลูกค้ากันคนละกลุ่ม

ร้านสัมตำ แอ๋ว โคราช เอื้ออาทรบึงกุ่ม ซ.เสรีไทย 43

เบอร์โทร 089-0723033

เปิดตั้งแต่ 08.00 เป็นต้นไปจนกว่าเครื่องเคียงจะหมดเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมาจะขายหมดประมาณ บ่าย2บ่าย3โมงเท่านั้นค่ะ

ก็ขายดีพอๆกับร้านคำหล้าค่ะ ลองมาแล้วทั้งสองร้านรสชาดใกล้เคียงกันค่ะ

ร้านนี้มีขายไก่ย่างแล้วก็เครื่องในไก่ย่างด้วยค่ะ

ตอนที่ไปซื้อประมาณใกล้เที่ยงค่ะ เครื่องเคียงใส่ส้มตำในตู้พร่องลงไปพอสมควร

เครื่องใส่ส้มตำค่ะ มีทั้งหอยดอง ไข่เค็ม และอื่นๆ

นอกจากส้มตำแล้ว ยังมีตำอื่นๆเช่นเดียวกับร้านคำหล้า

ที่เห็นก็ตำมะม่วง ในเมนูมีเยอะกว่านี้ แต่บังเอิญมุ่งไปทานส้มตำเลยไม่ได้สนใจเมนูอื่นๆ

ส้มตำป่า ร้านแอ๋วค่ะ หน้าตาน่าทานมากๆ ทานแล้วก็รสแซ่บถูกใจจริงๆ ร้านนี้ไม่ใส่ปลาทอดกรอบ มีแต่บรรดาผักต่างๆที่ตำรวมลงไป

สองร้านที่แนะนำหวังว่าจะทำให้ท่านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงแถวบางกะปิ สุขาภิบาล 1 สุขาภิบาล 2 หรือแถวแฟลตคลองจั่นแวะเวียนไปทาน เพราะตัวข้าพเจ้าเองบ้านอยู่ฝั่งสุขาภิบาล 3 ก็กลายจะลูกค้าประจำ วันเสาร์-อาทิตย์ ทีก็จะโทรไปสั่งให้เขาตำไว้ให้แล้วก็นั่งรถไปรับ กลับมาทานที่บ้าน ถุงละ 30บาทได้เยอะมากๆค่ะ ทานไม่หมดก็ใส่ตู้เย็น ใต้ช่อง FreeZ ไว้ทานมื้อต่อไปได้อีก รสชาดก็ไม่เสียนะคะ เพียงแต่เราจะได้รสชาดแบบเย็นชื่นใจ

ความแซ่บและความเผ็ดของทั้ง 2 ร้านนี้บอกเลยค่ะ ตามใจลูกค้า โดยเฉพาะร้านคำหล้า วันนั้นได้ยินลูกค้าโทรมาสั่งบอกว่า ใส่พริก 3กำมือ โอโห!! ได้ยินแล้วแอบร้อนปากค่ะ เพราะว่าพอเห็นพี่คำหล้าแกกำพริกชนิดไม่หวงเครื่องแล้วก็บรรยายไม่ถูกเลยค่ะ ว่าตอนที่ตักเข้าปากจะมีอาการอย่างไรบ้าง เท่าที่จำได้ตอนที่ทานส้มตำรสเผ็ดมากๆ เนี่ย พอถึงจุดหนึ่งจะรู้สึกตัวเบาๆ เหมือนจะเป็นลม น้ำหูน้ำตาไหล ควานหาน้ำเย็นไม่ทันเลยทีเดียว

บรรยากาศเท่าที่เห็นจานวางอยู่ ไม่ต้องบอกก็รู้ค่ะว่าบ้านมากๆ นั่งทานกับพื้นแล้วก็ปูด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ก็ชีวิตคนจะอะไรหนักหนา ลองมาทานอะไรแบบธรรมดา ธรรมดา ดูบ้างก็ดีนะคะ

การเดินทางไปที่ร้านส้มตำคำหล้า และ ร้านแอ๋ว ในโครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ซอยเสรีไทย 43

ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตั้งต้นจากเดอะมอลล์ บางกะปิ ก็ตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนเสรีไทย มองด้านซ้ายมือเห็นซอยเสรีไทย 43 (สำนักงานเขตบึงกุ่ม) ก็เลี้ยวเข้าไป จะผ่านบึงและก็ผ่านหน้าเขตสำนักงานบึงกุ่ม ขับเข้าไป ในโครงการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ประมาณ 1,500 เมตร วิ่งตรงอย่างเดียว จะเห็นเซเว่นในโครงการด้านซ้าย และเต้นท์ข้างๆ เซเว่นนั่นแหละค่ะ ร้านคำหล้าอยู่ติดเซเว่น แต่ร้านแอ๋ว อยู่ที่ฝั่งริมสุดของเต้นท์ในแนวเดียวกับร้านคำหล้าเลย

หรือ

ด้วยรถประจำทางของโครงการเอื้ออาทรบึงกุ่ม ไปขึ้นรถที่หน้าเดอะมอลล์บางกะปิ ก็ได้ค่ะ ซึ่งเป็นรถประจำทางเล็กสีแดง ที่เขียนว่า สวัสดิการบ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ค่ารถ 10 ตลอดสาย รถจะเข้าไปในหมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม พอเห็นเซเว่นในโครงการเอื้ออาทรก็กดกริ่งลงเลย ก็จะมองเห็นร้านชัดเจนสามารถสั่งส้มตำมารับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อยค่ะ

ทานแล้ว เที่ยวแล้ว คราวหน้าใครที่เบื่อกรุงเทพ อยากจะพักร้อนไปพักผ่อนเพื่อคลายเครียดจากความวุ่นวายในเมืองหลวง ขอบอกว่าพักผ่อนจริงๆนะคะ เพราะไม่มีการเที่ยวเลย พักผ่อนในบ้านพักที่สงบร่มรื่น พร้อมกับหนังสือเล่มโปรด ฟังเพลงเบาๆ ก็ติดตาม Trip หน้าค่ะ