วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Blogนี้ว่างจัง!! ขออภัยหากรบกวน(*0*)

Blog นี้
ว่างจริง จริงนะจ๊ะ
ว่าแต่ใครหลวมตัวเข้ามาแล้วก็ ไปฟังเพลงเพราะ เพราะ กันดีกว่า
เพลงโปรดของคนเขียนเองแหละจ้า ฟังทีไหร่ก็เพราะมากๆ ถึงจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
ไม่รู้จะมีคนเหมือนเราหรือเปล่าที่สามารถฟังเพลงโปรดได้เป็นร้อยๆรอบ โดยไม่เปลี่ยนเพลงอื่นเลย
คงไม่มีใครบ้าแบบนี้มั้ง เน๊าะ....



ฟังเพลงโปรดแล้วก็มาอ่านบทความโปรดของข้าพเจ้าอีกเช่นกัน บทความที่เป็นแรงบันดาลใจ

"ให้เวลากับคนอื่นบ้าง เพราะให้เวลากับตัวเองมามากพอแล้ว"

บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง

เขียนเมื่อวันที่ 11 กันยายน วันที่ตึกเวิร์ลเทรดถล่มและภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั่นด้วย

ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น.....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด…… แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับ ความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง



ส่วนเพลงนี้ เป็นเพลงของวงโปรดเพื่อนข้าพเจ้าเอง


Once in a lifetime - ShinHwa






ตอนนี้ที่ไปเกาหลีก็เลยแวะไปทานไก่ทอดของ ชินฮวา กัน


อร่อยเชียว ทานแล้วคิดถึงเมืองไทยมากๆ รสชาดไม่แตกต่าง
รูปหนุ่มๆที่ติดในร้านค่ะ present น่าดู




พร้อมกับตู้โชว์นามบัตรและคำอวยพรของแฟนๆและเพื่อนๆที่แวะมาทานไก่ที่ร้านด้วย




เขาว่าหมูย่างเกาหลีอร่อยก็เลยลองเข้าไปทานกันว่าจะเริ่ด!!ขนาดไหน


แต่ขอบอกว่ารสชาดน้ำจิ้มไม่ถูกปากเราเท่าไหร่


แต่ดูเนื้อหมูสามชั้นนั่นสิคะ มันน่าทานมากๆ


ที่สำคัญเลย เครื่องเคียงทานกับหมูย่าง อันนี้ขอบอกว่าชอบ โดยเฉพาะหัวไชเท้าดอง (สีเหลือง) แบบนี้อร่อยมากๆ ไม่เหมือนกิมจิ แต่ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร ตอนกลับเมืองไทยว่าจะซื้อกลับบ้านแต่ไม่ไหว เล่นขายกันเป็นไหๆ เลย หลายหมื่นวอนอยู่เหมือนกัน


ซุปเต้าเจี้ยว กับ กิมจิ ไม่ว่ามื้อไหนๆก็มี 2 อย่างนี้ไม่เคยขาด


ข้าวปั้นอาหารแก้หิวตอนเช้าและตอนดึก หาซื้อได้ตามมินิมาร์ทหรือรถเข็นใกล้ๆโรงแรม


จานนี้ไม่รู้เรียกอะไร แต่ว่าคล้ายเปรี้ยวหวานบ้านเรา พอทานได้แต่ไม่ชอบค่ะ





อันนี้ของโปรดเลย บะหมี่ดำ หรือ จาจังมยอน หรือ จาจังเมียน แล้วแต่จะออกเสียง
อร่อยมากๆ เวลาทานกับไซเท้าดองน้ำผึ้ง(มั่ง)





เค้กนี้ได้มาคืนที่ไปคอนเสิร์ต 2หนุ่มให้เค้กคนต่างชาติที่ไปชมคอนเสิร์ตหรือสำหรับคนที่เกิดในเดือนกรกฎาคมนี่แหละไม่แน่ใจ อร่อยมากๆ ค่ะ แต่ตอนทานเนี่ยทุลักทุเลเพราะนั่งทานกันริมฟุตปาธเลยทีเดียว ช้อนก็ตัดๆฝากล่องเค้กนั่นแหละ เพราะขี้เกียจหอบหิ้วกันไปตลาดทงแดมุน

เลยรีบๆทานให้เสร็จก่อนจะแยกย้ายไปช้อปปิ้ง

เริ่มท่องราตรีกันแล้ว รถขายผลไม้ที่เกาหลี ตกแต่งได้น่ารักเชียว
เสียบเป็นไม้ๆขายกันเลยทีเดียว เข้า Concept ลดโลกร้อน
รถขายปลาหมึกแห้งย่าง และข้าวโพดย่างเช่นเดียวกัน
สังเกตดูดีๆ ปลาหมึกที่นี่ตัวญ่ายยยยยมากๆค่ะ

ริมถนนก็มีคุณหมีวางอยู่หน้าร้าน ด้านในร้านก็มีค่ะ ร้านอะไรก็ไม่แน่ใจ
เห็นน่ารักดีก็ถ่ายมา

เดินเข้ามาในห้างค่ะ


ไปเกาหลีทั้งที พี่ๆน้องๆก็ฝากซื้อซีดีเพลงของนักร้องคนโปรด

ออกมาเดินด้านนอกต่อค่ะ เปิดท้ายเกาหลีกันนี๊ด


มาหยุดตรงเวทีคอนเสิร์ตกันหน่อย เกาหลีได้ชื่อว่าประเทศแห่งความบันเทิง
ดังนั้นในแต่ละวันเขาก็จะจัดให้มีเวทีคอนเสิร์ตของศิลปินทั้งทีชื่อและไม่มีชื่อขึ้นแสดงให้ชาวเกาหลี
ได้อิ่มเอมกันเลยทีเดียว
เรียกว่าสามารถหาความสุขได้ทุกที่ทุกเวลา

ภาพที่สำนักงานท่องเที่ยวเกาหลี พรีเซ้นท์กันน่าดู

นี่พระเอกคนดังจาก i'm sorry i love you ตอนที่ไปเกาหลียังประจำการในกรม
แต่ภาพที่เป็นพรีเซ้นเตอร์โฆษณาก็ติดอยู่ทั่วไป
แถมใหญ่โตมาก
นี่ก็อีกคนไม่รู้ว่าใคร แต่อยากให้เห็นว่าโฆษณาในเกาหลี ต่างจากเมืองไทยยังไง

นี่ก็อีก ในสถานีรถไฟฟ้ามีรูป Presenter ที่เป็นดารา นักร้อง เต็มไปหมด
แล้วแต่จะสรรหาและเลือกดู

Presenter หญิง คนนี้ดังค่ะ คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชื่ออะไร
ส่วนตัวเองในขณะเขียน blog นี้ก็จำไม่ได้และไม่อยากจะนึกด้วย
บอกแล้วว่า blog นี้ว่างจริงๆ เพราะมันออกมาจากสมองว่างๆ

คนนี้พระเอกคนโปรดของเรา (ยังจำชื่อไม่ได้เลย)
รู้แต่ว่าตอนนี้แต่งงานแล้ว และกำลังจะมีลูกคนแรก
หวังว่าจะหล่อเหมือนคุณพ่อและสวยเหมือนคุณแม่

คนนี้เบยองจุน พระเอก winter love song เพลงรักในสายลมหนาว
ดังสุดๆดูจากรูปโฆษณาได้ มีติดอยู่ทั่วเกาหลี
เลยขอแชะรูปมาด้วยซะเลย

ไปเดินในกรุงโซล เกาหลีใต้ดีกว่า ชมภาพศิลปะบนท้องถนนและริมทางเดิน
เดินเกาหลีตอนหน้าฝนเนี่ย อากาศดีมากๆ แดดก็ไม่มี อากาศก็ไม่ร้อน แถมฝนก็ไม่ตก


ศิลปะริมถนน ณ กรุงโซล
รูปปั้น มองให้เป็นศิลป์

นี่ก็ดูเท่ห์ เท่ห์ ดี

เขาว่างาม ก็งาม ตามเขาว่า...

ศิลปะบนกำแพง สวยไปอีกแบบ
อีกมุมค่ะ

สัญลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี
ตู้โทรศัพท์ก็มองให้เป็นศิลป์ได้
อันนี้ชอบเป็นพิเศษ ตรงนี้เป็นร้านกาแฟค่ะ
น่ารักและตกแต่งได้เก๋ดี

นี่ก็ร้านกาแฟเช่นกัน
เลยขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เพราะชอบเป็นพิเศษ

มาดูธรรมชาติกลางกรุงโซลดีกว่าค่ะ คลองเคซองค่ะ คล้ายๆคลองแสนแสบบ้านเรา
สมัยก่อนก็ทั้งสกปรกทั้งเหม็น แต่ประธานาธิบดีคนหนึ่งของเกาหลีได้ทำประชาพิจารณ์เพื่อปรับปรุงคลองโดยการทำท่อเก็บน้ำเสียไว้ใต้คลองแล้วผันน้ำดีเข้ามาแทน
ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย
เขาเลยมีโอกาสได้ธรรมชาติสวยๆแบบนี้กลางกรุง
เสียดายไม่มีเวลาไม่งั้นจะพาเดินชม
เห็นว่าใต้สะพานข้ามคลองแต่ละจุดมีภาพศิลปะแสดงให้ดูด้วย
เห็นสีเขียวแล้วสบายตา สบายใจดี


ร้านขายดอกไม้ มีอยู่ทั่วไปในเกาหลี
การจัดช่อสู้ที่เมืองไทยไม่ได้
หรือเราอาจจะไม่เจอร้านที่จัดสวยๆ
จบ Blog นี้แบบว่าง ว่าง
เอวัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น